ข้ออักเสบรูมาตอยด์ ถูกพบมากขึ้นใน ๆ ทุกปี รู้หรือไม่ว่าโรคนี้เป็นโรคเรื้อรัง ป่วยข้ออักเสบรูมาตอยด์ ที่สามารถทหมีอาการ ปวดบวม ตามข้อต่าง ๆ โดยอาจส่งผลเสียต่ออวัยวะในร่างกายได้ โดยเฉพาะ หัวใจ ปอด เส้นประสาท และอื่น ๆ

การดูแลและรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์

การรักษาโรคนี้ปกติแล้วจะเป็นการใช้ยารักษา และการเข้ารับการผ่าตัด เพื่อหยุดยั้งความเสียหายที่อาจเกิดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยยาที่ใช้รักษาจะเป็นยาที่ลดอาการปวด เช่น เอ็นเสด สารยับยั้ง  COX II   และ Corticosteroid นอกจากนี้ยังใช้ยาที่ช่วยเรื่องหยุดความเสียหายที่เกิดต่อข้อ ทั้งนี้หากแพทย์จ่ายยาไปแล้ว และนัดตรวจ ไม่ควรหนีหายไม่ไปตามนัด และไม่ควรหยุดยาเอง ด้วยความเข้าใจผิดว่าดีขึ้นแล้ว หายปวดแล้ว

ป่วยข้ออักเสบรูมาตอยด์  การเยียวยารักษาโรค บางทีอาจส่งผู้เจ็บป่วยไปยังผู้ที่มีความเชี่ยวชาญสำหรับเพื่อการบำบัดรักษาโรคหรือนักกายภาพที่ช่วยสอนให้คนป่วยออกกำลังกาย เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับข้อต่อกระดูกต่าง ๆ ผู้ชำนาญบางทีอาจชี้แนะช่องทางใหม่ ๆ เพื่อให้คนเจ็บนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน รวมถึงการใช้เครื่องมือช่วยเหลือที่ทำให้การใช้ชีวิตง่ายดายมากยิ่งขึ้นแล้วก็เลี่ยงความเจ็บ หรือการลงน้ำหนักไปที่ข้อได้ 

การผ่าตัด ถ้าเกิดการดูแลและรักษาด้วยยาไม่เป็นผลสำหรับการคุ้มครองปกป้องการบาดเจ็บที่ข้อต่อ หรือไม่สามารถชะลอข้อกระดูกให้ถูกทำลายช้าลงได้  พูดง่าย ๆ คือ ไม่ช่วยให้ดีขึ้นเท่าที่ควรจะเป็น คุณหมอผู้เชี่ยวชาญอาจไตร่ตรองให้กระทำการผ่าตัดเพื่อรักษาข้อที่มีการเสื่อมหรือถูกทำลาย

ซึ่งการผ่าตัดบางทีอาจช่วยปรับให้ข้อต่อสามารถใช้การได้ดียิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยลดความเจ็บรวมทั้งช่วยปรับปรุงส่วนที่ผิดรูปผิดร่างให้กลับมาดีขึ้นได้ ซึ่งบางทีอาจใช้การผ่าตัดเพียงอย่างเดียวหรือรวมถึงแนวทางอื่น ๆ อาทิเช่น การผ่าตัดเยื่อหุ้มห่อข้อ (Synovectomy) การเย็บเส้นเอ็นรอบข้อที่เสียหาย รวมทั้งการผ่าตัดใช้ข้อเทียม (Total Joint Replacement)

รู้หรือไม่ว่าหากป่วยเป็นข้ออักเสบรูมาตอยด์ สามารถมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ เนื่องจากมันสามารถลามไปสู่อวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย แล้วป่วยด้วยโรคต่าง ๆ เช่น โรคไข้ข้ออักเสบ โรคปากแห้งตาแห้ง มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยรูมาตอยด์มีอาการที่หนักขึ้น ควรจะรักษากับแพทย์ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพราะหากปล่อยไว้นาน ๆ ไม่ยอมรักษาจะเป็นรุนแรงขึ้น และจะเสี่ยงต่อการเดินไม่ได้

นอกจากกรรมวิธีรักษาดังที่กล่าวมา ผู้ป่วยก็ควรจะพักผ่อนให้เพียงพอ เอาใจใส่ต่อข้อของตัวเองให้มาก ๆ เพิ่มความระมัดระวังที่จะเกิดการบาดเจ็บขึ้นและอาจทานแต่สิ่งดี ๆ ได้แก่ การกินน้ำมันปลา น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส เป็นต้น

สนับสนุนโดย.    เวปเจตใหม่

สมัยนี้ไม่เหมือนสมัยก่อน ทั้งๆที่โลกได้ก้าวสู่ระบบยุคดิจิตอลแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าโรคภัยไข้เจ็บ ก็เป็นกันได้ง่ายมากขึ้น ทั้งที่ๆสมัยก่อนอะไรดูจะกันดารมากกว่าสมัยนี้ แต่กลายเป็นว่าสมัยนี้โรคกับเยอะกว่าสมัยก่อน ซึ่งโรคยอดฮิตที่คนเป็นกันเกือบทั้งประเทศก็คือ โรคภูมิแพ้

เพราะเทียบร้อยเปอร์เซ็นต์ของประชากรในประเทศไทยแล้วนั้น ต้องมีคนเป็นโรคภูมิแพ้ไม่ต่ำกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์ บางคนก็อาจจะเป็นบางช่วงเวลาของแต่ละปี เช่นช่วงหน้าฝน ซึ่งอันที่จริงแล้วคนเป็นภูมิแพ้ร้อยละสี่เปอร์เซ็นต์ ก็จะมีอาการช่วงหน้าฝนกับหน้าหนาวนี้แหละ

แต่ก็มีคนบางกลุ่มอีกเกือบยี่สิบเปอร์เซ็นต์ทั้งหมดที่เป็นตลอดช่วงเวลาก็มี เรียกกันได้ว่าเป็นแบบเรื้อรังเลยทีเดียว และอายุเฉลี่ยส่วนใหญ่สำหรับคนที่มีอาการโรคภูมิแพ้นั้น จะมีอายุต่ำกว่าสี่สิบปีลงมา ซึ่งมักจะมีอาการภูมิแพ้ได้ง่ายกว่า และสาเหตุส่วนใหญ่ก็มักจะเกิดจากการที่ต้องสัมผัสอากาศเย็นในห้องที่มีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ และสาเหตุสำคัญอีกส่วนคือช่วงฤดูฝน

  เป็นช่วงที่มีอาการภูมิแพ้ หรือภูมิแพ้หน้าฝนนั่นเอง เพราะด้วยสภาพความชื้นในอากาศที่มีสูกว่าปรกติ รวมถึงฝุ่นละอองจากสารชิวภาพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น

สารจากเกสรดอกไม้ ซึ่งเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่ทำให้เกิดอาการแพ้ และพบบ่อยในช่วงฤดูฝน ที่มักจะมีละอองจากเกสรดอกไม้มากกว่าฤดูอื่นๆ

หญ้า อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการภูมิแพ้มากยิ่งขึ้น และอาการแพ้ก็จะปรากฏตามร่างกายได้รุนแรงกว่าเดิม

วัชพืช และเศษวัสดุ ซึ่งเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวเล็กๆ แต่กลับมีอานุภาพ และทำให้อาการแพ้มีอาการรุนแรงมากที่สุด ซึ่งถ้าใครเคยสัมผัสหรือเคยแพ้มาแล้ว จะรู้ถึงฤทธิ์เดชของมันเป็นอย่างดี

เชื้อรา ร่าเริงและเติบโตรวดเร็วในช่วงฤดูฝนมากที่สุด เป็นสารก่อภูมิแพ้ที่พบได้บ่อยตามผิวสัมผัสในสถานที่อับชื้นและแสงส่องเข้าถึงได้น้อย

สุดท้ายคือเจ้าไรฝุ่น ที่หลายๆคน น่าจะกลัวและเข็ดขยาดเหลือเกินแม้เพียงแค่ได้ยินชื่อของมัน และมักจะพบมากในอากาศชื้น เช่นในฤดูฝน แต่ที่มันร้ายกว่านั้น เจ้าไรฝุ่นนี้มักมักจะซ่อนตัวกับของในบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นที่นอน พรม เตียงนอน หรือเสื้อผ้าที่เราใส่ ซึ่งซ่อนได้อย่างแนบเนียนจนกว่าเราจะรู้ก็มีอาการน้ำมูกไหล และไอจามไม่หยุดแล้ว

ซึ่งปัญหาเหล่านี้นั้นได้สร้างความก่อกวนทั้งทางร่างกายและจิตใจให้กับผู้คนในประเทศไม่น้อยเลย เพราะมันจะไม่สบายตัว จนก่อนความรำคาญและทำให้ความสุขลดหายไป ดังนั้นควรดูแลตัวเองให้ดีให้ห่างจากอาการเหล่านี้ให้ได้นะ

สนับสนุนเรื่องราวโดย  เวปเจตใหม่

เราขอเสียงคนที่ชื่นชอบกินหน่อไม่หน่อยค่ะเพราะว่าเรานั้นก็เป็นอีกหนึ่งเสียงที่ชอบทานหน่อไม้อย่างมาก  เพราะว่าเวลาที่เราเอามาปรุงทำอาหารนั้นสามารถที่จะทำให้เรานั้นกินข้าวมื้อนั้นที่แสนอหร่อยอย่างมาก  การที่เราชื่นชอบนั้นก็ต้องดูปริมาณที่กินด้วยนะคะสาวๆ

เพราะว่าถ้าเรานั้นกินเข้าไปเยอะนั้นเราอาจจะอ้วนได้เหมือนกันเพราะว่าเราทานข้าวเยอะนั่นเอง  การที่เรากินหน่อไม้มานั้นเราจะได้ยินคำโบราณที่ชอบพูดว่าการที่เรากินหน่อไม้นั้นจะไม่ดีอย่างนั้นห้ามกินเวลาที่เราเป็นแผลเพราะว่าจะทำให้แผลของเรานั้นหายช้า  เราจะมาบอกว่าเป็นเรื่องที่ไม่จริงนะคะ  อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อ  แต่สำหรับเรานั้นเรากินไม่เห็นเป็นอะไร  เพราะว่าของมันอร่อยคะ  

   หน่อไม้ทำไมต้องดองถึงจะอร่อย   เวลาที่เรากินหน่อไม้นั้นเราต้องกินหน่อไม้ดองเพราะว่าหน่อไม้ดองนั้นสามารถที่จะเก็บเอาไว้กินได้นาน และสามารถที่จะเอาประกอบอาหารนั้นได้มากมายเหมือนกันการที่เรากินหน่อไม้ดองนั้นเราก็ต้องเอาไปดอกก่อนสักเดือนถึงสองเดือน

จากนั้นเราก็ค่อยเอามาประกอบอาหารแต่ว่าในการที่เรากินแบบดองนั้นเมื่อเราทำไม่สุขหรือว่ากินหน่อไม้ดองที่ไม่สะอาดนั้นจะทำให้เรานั้นเกิดอาการคัน  ที่บริเวณดวงตาหรือว่ามีอาการท้องเสีย หรือว่าคลื่นไส้ได้นั่นเอง  เพราะว่าในนั้นจะมีสารที่มีชื่อเรียกว่าสารโบทูลินเมื่อเรานั้นทำอาหารด้วยที่ไม่ร้อนพอ  หรือว่าไม่สะอาดนั้นจะทำให้เราเกิดอาการเหล่านี้ได้นั่นเอง  

      ประโยชน์ของหน่อไม้  หน่อไม้ที่เรานั้นกินมีประโยชน์มากมายเพราะว่าช่วยลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดมะเร็งในลำไส้ได้อีกด้วย  ช่วยลดอาการที่เราท้องผูก  และยังมีแคลอรี่ที่ต่ำ  เหมาะสำหรับคนที่กำลังลดความอ้วนอีกด้วยนะ  เห็นไหมค่ะว่าหน่อไม้นั้นมีประโยชน์มากมาย

แต่ว่าในการที่เรากินนั้นเราก็ต้องทำให้สุข และเราก็ต้องเลือกในการรับประทานอย่างเช่นหน่อไม้ดองนั้นสามารถที่จะทำให้เรานั้นเกิดอาการท้องเสียได้  ดังนั้นเราก็ควรที่จะเลือกกินหน่อไม้ดองที่สะอาด  หรือว่าไม่อย่างนั้นเราก็เลือกที่จะดองกินเอง  เพราะว่าเราทำกินเองจะได้ทั้งความสะอาด  ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่สะอาดนั่นเอง 

       แต่ว่าไม่อย่างไรนั้นเราก็ควรที่จะกินแค่พอเหมาะอย่ากินในปริมาณที่เยอะเกินไป เพราะว่าอาจจะทำให้เกิดอาการร้อนเพราะว่าหน่อไม้นั้นเมื่อเรากินหน่อไม้ดองจะทำให้เกิดความร้อน  ในร่างกาย  และเราก็ควรที่จะกินอาหารให้ครบห้าหมู่  

ได้รับการสนับสนุนโดย  เวปเจตใหม่