ปัจจุบันนี้บริษัทที่ผลิต ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม กำลังมีการผลิตสินค้าออกมาใหม่  ซึ่งสินค้าใหม่นั้นจะมีการนำกัญชามาเป็นส่วนผสมหลักด้วยเนื่องจากว่าสถานการณ์ในตอนนี้นั้นรัฐบาลได้มีการออกมาประกาศให้กัญชานั้นไม่ผิดกฎหมายอีกต่อไปสามารถที่จะผสมในอาหารหรือแม้แต่ในเครื่องดื่มได้ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่หลายบริษัทนั้นได้มีการทำการผลิตสินค้าใหม่ขึ้นมา

            โดยมีส่วนผสมของกัญชาไม่ว่าจะเป็นบริษัทอิชิตันหรือแม้แต่บริษัทผลิตอาหารเสริมต่างๆก็มีการนำกัญชามาเป็นส่วนผสมเรียกได้ว่าในปัจจุบันนี้เกือบแทบทุกบริษัทนั้นไม่มีการผลิตสินค้าใหม่ขึ้นมาซึ่งสินค้าเหล่านั้นจะถูกนำกัญชามาเป็นส่วนผสมหลักเพื่อเป็นตัวดึงดูดให้กับลูกค้าได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่

        อย่างไรก็ตามทางด้านสำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพหรือที่เรารู้จักกันดีในนามของ สสส.  ได้ออกมาพูดถึงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชาว่าลูกค้าควรจะมีการพิจารณาการเลือกรับประทานอาหารหรือแม้แต่เครื่องดื่มที่ใส่กัญชาเป็นส่วนผสมหลักเนื่องจากว่าหากมีการใส่ในปริมาณที่ไม่ถูกต้องกับปริมาณไม่พอเหมาะหรือควบคุมการผลิตไม่ดีนั้นแทนที่จะส่งผลดีกับร่างกายก็อาจจะส่งผลเสียหรืออาจจะเกิดอันตรายกับร่างกายของคนที่กินเข้าไปก็ได้เช่นเดียวกัน

               เพราะในกัญชานั้นนอกจากมีสารที่ทำให้มีผลดีต่อร่างกายแล้วยังมีสารที่ส่งผลเสียต่อร่างกายด้วยเช่นเดียวกันนั่นก็คือสาร THC  ซึ่งสารชนิดนี้นั้น จะมีคุณสมบัติที่ทำให้คนที่กินเข้าไปเกิดอาการเคลิบเคลิ้มและมึนเมาและแน่นอนว่าถ้าหากใส่ในอาหารหรือเครื่องดื่มในปริมาณที่พอเหมาะนั้นก็จะส่งผลดีกับร่างกายหรือไม่ได้ส่งผลเสียกับร่างกายแต่ในขณะเดียวกันนั้นถ้าหากใส่ในปริมาณที่เข้มข้นมากจนเกินไปแล้วล่ะก็ จะเกิดทำให้มีอาการมึนเมาและบางคนหากมีอาการแพ้ก็อาจจะเกิดเป็นพิษต่อร่างกายได้เช่นเดียวกัน

             ดังนั้นการที่จะนำกัญชามาเป็นส่วนผสมของอาหารหรือเครื่องดื่มนั้นควรจะได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนเพราะจะต้องมีการนำส่วนผสมและเครื่องปรุงต่างๆไปให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลส่วนผสมว่าสามารถใช้ส่วนผสมนี้ได้หรือไม่หรือถ้าหากใช้ในปริมาณมากเกินไปก็อาจจะมีความผิดตามกฎหมายได้เช่นเดียวกันเพราะกัญชาถึงแม้ว่าจะมีการเปิดให้ใช้แบบเสรีแล้วแต่ก็ยังมีการใช้กฎหมายควบคุมปริมาณการใช้งานอยู่นั่นเอง

          นอกจากนี้อุณหภูมิสำหรับในการผสมกัญชากับอาหารนั้นก็มีส่วนสำคัญเช่นเดียวกันเพราะยิ่งถ้าเกิดว่าใช้ในพระภูมิและสาร THC ก็จะยิ่งออกฤทธิ์รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมซึ่งจะมีผลต่ออันตรายต่อร่างกายนั่นเอง

สนับสนุนโดย.    แทงหวย

ต้องบอกกับทุกท่านก่อนนะว่าปกติแล้วผลไม้โดยปกติแล้วจะมีวิตามินและเกลือแร่ แร่ธาตุต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายแต่ถ้าเกิดว่าผู้ป่วยภาวะไตเสื่อมหรือไตวายเรื้อรังแล้วไตท่านจะทำงานได้ไม่เต็ม100% เวลาเราทานผลไม้เข้าไปผลไม้ที่มันมีโพแทสเซียมสูงๆมากๆจะมีผลทำให้ไตทำงานหนักและขับโฑแทสเซียมไม่ออกก็จะเกิดภาวะมีโพแทสเซียมคลั่งในเลือดเป็นอันมาก

นอกจากนี้ถ้าหากว่าเราสะสมไปนานๆก็จะส่งผลทำให้ภาวะโพแทสเซียมในเลือดมีปริมาณที่เกินและจะมีผลอันตรายต่อร่างกาย

โดยปกติแล้วค่าโพแทสเซียมในเลือดปกติจะอยู่ที่3.6-5.2มิลลิโมลต่อลิตรแต่ถ้าเกิดใครไปตรวจดูแล้วมีค่าเกิน5.2คุณจะต้องหยุดผลไม้ที่มีปริมาณโพแทสเซียมสูงๆ เพราะว่าจะอันตรายต่อร่างกายมาก ถ้าโพแทสเซียมของท่านเกินมากๆจะเกิดผลอะไร

ซึ่งจะทำให้ภาวะหัวใจเต้นผิดปกติมีอาการอาเจียนเป็นตะคริวง่ายหรือบางคนถ้าเกิดว่ามันเกินมากๆทำให้หัวใจผิดปกติและมีภาวะหัวจวายและหัวใจหยุดเต้นได้อันตรายเป็นอย่างมากเลยโดยปกติเราจะมาดูกันว่าผลไม้อะไรบ้างที่มีค่าโพแทสเซียมเกิดดูยังไง

เบื้องต้นก็คือเราจะคำนวณจากผลไม้ปริมาณ 100กรัม ไม่ควรมีโพแทสเซียมเกิน 250มิลลิกรัม ต่ำกว่า 250มิลลิกรัม ก็ยังถือว่าทานได้แต่ถ้าเกิด เกิน250 ไปแล้วจะถือว่ามีโพแทสเซียมระดับกลางไปทางสูงและก็ทางสูงมากเลย โดยเราจะมาบอกว่าผลไม้ที่มีโพแทสเซียมเกินหรือว่าใน100กรัม เกิน250มิลลิกรัม มีอะไรบ้าง

ตัวแรกก็คือ น้ำลูกยอ ใน 100กรัม จะมีปริมาณโพแทสเซียมอยู่ที่ 2,000มิลลิกรัม สองลูกพรุนอบแห้งโพแทสเซียมอยู่ที่ 1100มิลลิกรัม สามลูกเกด โพแทสเซียมอยู่ที่ 892มิลลิกรัม สี่ เมล็ดทานตะวันโพแทสเซียมอยู่ที่ 850มิลลิกรัม ห้า อินทผลัม โพแทสเซียมอยู่ที่ 696มิลลิกรัม หก ตะขบ โพแทสเซียมอยู่ที่ 773มิลลิกรัม เจ็ด ทุเรียน ฌพแทสเซียมอยู่ที่ 550มิลลิกรัม แปด ขนุน โพแทสเซียมอยู่ที่ 448 เก้า

มะม่วงหาวมะนาวโห่ โพแทสเซียมอยู่ที่ 411มิลลิกรัม สิบ เชอร์รี่ โพแทสเซียมอยู่ที่ 486 มิลลิกรัม สิบเอ็ด กล้วยหอม โพแทสเซียมอยู่ที่ 350มิลลิกรัม สิบสอง กล้วยไข่ โพแทสเซียมอยู่ที่ 320มิลลิกรัม สิบสาม กล้วยน้ำว้า โพแทสเซียมอยู่ที่ 300มิลลิกรัม สิบสี่ ลูกพลับ โพแทสเซียมอยู่ที่ 310มิลลิกรัม

สิบห้าแก้วมังกร โพแทสเซียมอยู่ที่ 287มิลลิกรัม สิบหก มะลอกอสุก โพแทสเซียมอยู่ที่ 320 มิลลิกรัม สิบเจ็ด ทุเรียนเทศหรือทุเรียนน้ำ โพแทสเซียมอยู่ที่ 290 มิลลิกรัม สิบแปด มะพร้าว โพแทสเซียมอยู่ที่ 356 มิลลิกรัม สิบก้าว เสาวรส โพแทสเซียมอยู่ที่ 350 มิลลิกรัม

ยี่สิบ กีวี โพแทสเซียมอยู่ที่ 310 มิลลิกรัม ยี่สิบเอ็ด ละมุด โพแทสเซียมอยู่ที่ 269 มิลลิกรัม ยี่สิบสอง แคนตาลูป โพแทสเซียมอยู่ที่ 260มิลลิกรัม ยี่สิบสาม ทับทิม โพแทสเซียมอยู่ที่ 256 มิลลิกรัม ยี่สิบสี่ น้อยหน่า โพแทสเซียมอยู่ที่ 250 มิลลิกรัม 

ซึ่งทั้งหมดนี้ก็คือผลไม้ทั้ง24ชนิดที่มีปริมาณของโพแทสเซียมที่สูงมากๆก็ไม่แนะนำให้ผู้ป่วยไตเสื่อมหรือไตวายเรื้อรังรับประทานโดยเด็ดขาด

สนับสนุนโดย.    แทงหวย

เราคิดว่าหลายๆท่านน่าจะมีปัญหาเวลาจะไปเยี่ยมคนป่วยไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรไปเยี่ยมดีวันนี้เราจะมาแนะนำอาหารผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อผู้ป่วยที่เพิ่งหายไข้มากๆดีมากๆเลย

ซึ่งเราคิดว่าหลายๆท่านอาจจะมีปัญหาเวลาจะไปเยี่ยมญาติหรือคนที่เราห่วงใยก็จะมีความรู้สึกว่าจะซื้ออะไรไปเยี่ยมดีคิดไม่ออกก็ไปซื้อกระเช้านู่นนี่ก็แบบที่เขาจะทำสำเร็จรูปเอาไว้แล้วแต่ในบางครั้งในกระเช้านั้นมันเป้นของที่เหมาะกับผู้ป่วยจริงหรือเปล่าก็บอกได้ยากอาจจะดีหรืออาจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ก็ได้

วันนี้เรามาแนะนำกระเช้ารวมผลไม้ถ้ามีผลไม้นี้เราบอกเลยว่าเหมาะมากๆสำหรับผู้ป่วยไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยโรคหัวใจความดันสูงไขมันสูงหลากหลายเบาหวานก็ยังทานได้มาดูกันบ้างมีอะไรบ้างเป้าหมายของเราผลไม้นี้จะต้องเพิ่มภูมิคุ้มกันลดความเสี่ยงโรคหัวใจควบคุมความดันควบคุมไขมันควบคุมเบาหวานได้ดียิ่งขึ้น

ข้อแรก แอปเปิ้ล ไม่ว่าจะเป็นแอปเปิ้ลแดงหรือแอปเปิ้ลเขียวจและจะแดงหรือจะเขียวก็โอเคทั้งนั้นถ้าอยากคุมน้ำหนักด้วยก็แอปเปิ้ลเขียวหน่อยแต่ถ้าแดงมันก็โอเคแล้วแต่คนชอบ 

โดยตัวแอปเปิ้ลมีสารที่ชื่อว่าฟลาโวนอยด์เป็นพฤษเคมีที่เจ๋งมากๆเลยช่วยป้องกันเรื่องของหัวใจและหลอดเลือดทำให้ความดันควบคุมได้ดีขึ้นสารตัวนี้พบมากที่ไหนพบมากได้ที่เปลือกของแอปเปิ้ลเพราะฉะนั้นจกินแอปเปิ้ลพร้อมเปลือกอย่าไปปลอกเลือกมันเสียดายของกากใยสูงน้ำตาลต่ำ

เหมาะมากกับผู้ป่วยที่จะเพิ่งหายไข้ทำให้ร่างกายสดชื่นมีกำลังวังชา

ข้อสองก็คือ สาสี่ทอง  สาสี่ทองถือว่าเป็นผลไม้ที่กรุบกรอบอร่อยกินแล้วสดชื่นเพราะอะไร เพราะเขาเป็นผลไม้อิ่มน้ำผลไม้อิ่มน้ำมีเยอะแต่ผลไม้อิ่มน้ำที่น้ำตาลต่ำต้องสาสี่ทองผลไม้อิ่มน้ำที่น้ำตาลต่ำดียังไงต้องบอกว่าผู้ป่วยที่เพิ่งหายป่วย

โดยส่วนใหญ่มักจะมีภาวะขาดน้ำอยู่บ้างในร่างกายก็คือยังไม่สดชื่นกระปรี้กระเปร่าเพราะฉะนั้นแล้วการที่จะให้ทานแต่น้ำเปล่าอย่างเดียวมันก็ฟืดไม่อร่อยการทานผลไม้ที่อิ่มน้ำจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในร่างกายทำให้เรื่องของการไหลเวียนโลหิตทำให้เรื่องของความสดชื่นนั้นดีขึ้นแต่ผลไม้บางชนิดอิ่มน้ำแต่น้ำตาลสูงนี้ไม่ได้มันต้องอิ่มน้ำตาลต่ำ

ซึ่งต้องเผื่อเอาไว้คนไข้เป็นเบาหวานจะได้ควบคุมเรื่องของน้ำตาลได้ดีจะมีกากใยที่สูงมากๆเลยสำหรับตัวของผลไม้สาสี่ทองช่วยระบบขับถ่ายลดไขมันในเลือดแถมยังมีโพแทสเซียมที่สูงจะช่วยทำให้ความดันอยู่ในค่าปกติได้ดียิ่งขึ้น

สนับสนุนโดย.  เว็บหวยออนไลน์อันดับ1

สำหรับวันนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับดีๆที่จะพาทุกท่านมีอายุยืนที่ดีบอกเลยว่าง่ายๆมากเลย ข้อแรก ก็คือ เรื่องของการนอนนั่นเองเพียงแค่ท่านนอนอย่างน้อยวันละ8ชั่วโมงค่าเฉลี่ยคือ7-9ชั่วโมงไม่ควรน้อยกว่า7และไม่ควรมากกว่า9ชั่วโมงน้อยไปก็ไม่ดีมากไปก็ไม่ดี

ซึ่งได้มีวิจัยที่ชัดเจนว่าท่านนอนเฉลี่ย8ชั่วโมงความจำก็กีความคิดก็ดีความจำเสื่อมน้อยมากอายุยืนยาวโรคหัวใจไม่ถามหามันดีมากๆเลยเพียงแค่ท่านนอนเท่านั้นเองและนอนให้ถูกต้องและให้ถูกเวลาแนะนำช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือ4ทุ่มถึง6โมงเช้า

โดยในช่วงประมาณ5ทุ่มโกรทฮอร์โมนหลั่งสุดๆเลยตอนที่เราหลับลึกเพราะฉะนั้นแล้วเอาโกรทฮอร์โมนไปโกรทฮอร์โมนดีมากๆทำให้ชะลอวัยร่างกายแข็งแรงเติบโตสมวัยฉลาดสมองไม่เสื่อมดีมากๆ

ข้อที่สองก็คือ เรื่องของการออกกำลังกาย เดินอย่างน้อยวันละ8,000ก้าวก็ตกประมาณ4-5กิโลเราเดินทุกวันวันไหนเป็นวันวิ่งออกกำลังกายแอโรบิคผมจะเดินประมาณ12,500ก้าวแต่วันไหนเนเวทแทนนิ่งหรือว่าออกกำลังกายเช่นแบบทั่วไปหรือวันพักเราก็จะเดินประมาณ8,000ก้าวเป็นอย่างต่ำมันก็ทำให้สุขภาพดีมากๆ

ซึ่งถามว่าอายุเยอะแล้วดินได้ไหมบอกเลยว่าเดินได้เลยอายุ70-80เดินได้เลย7-8,000ก้าวแต่ถ้าท่านเริ่มเดินเราแนะนำให้เริ่มที่5,000ก้าวก่อนเราจะรู้ได้ไงว่าเดินกี่ก้าวแล้วก็ไปซื้อนาฬิกามาใส่นาฬิเรือนหนึ่งในปัจจุบันก็หลักร้อยบาทถ้าชีวิตท่านมีค่ามากกว่าหลักร้อยเพราะฉะนั้นก็ควรไปซื้อมาใส่

ข้อที่สามก็คือ กินเพียงแค่80%ของความอิ่มเมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านรู้สึกอิ่มหรือรู้สึกอร่อยมากๆให้พักให้หยุดกินเพราะว่าโดยปกติเวลาเราใช้เวลากินมักจะใช้เพียงแค่15นาทีก็กินหมดอิ่มแหละแต่จริงๆแล้วสมองเรากว่าจะรับรู้ความอิ่มจากกระเพาะไปได้ว่ามีอาหารอยู่เต็มกระเพาะมันใช้เวลาประมาณ20นาที

นอกจากนี้เวลาที่เรากินอิ่มเข้าไปมากๆพอมันครบ20นาทีสมองพึ่งบอกพอแล้วอิ่มได้แล้วสิ่งที่เราจะรู้สึกก็คืออิ่มจุกแน่นท้องแล้วเราก็ไม่อยากทำอะไรนั่งเฉยๆชีวิตแบบนี้ไม่ดีเพราะฉะนั้นแล้วแนะนำให้ท่านเพียงแค่80%ก็เพียงพอแล้วและก็ทานอาหารที่มีประโยชน์อาหารในจานแบ่ง4ส่วน1ส่วนโปรตีน1ส่วนคาร์โบไฮเดรตอีก1ส่วนผลไม้อีก1ส่วนเป็นผักนั่นเองไขมันก็ผสมผสานให้มันเป็นไขมันดีขอแนะนพวกถั่วหรือว่าพวกกลุ่มของน้ำมันมะกอกหรือว่าเป็นพวกปลาที่มีไขมันสูงนั่นเอง

สนับสนุนโดย    แทงหวยจับยี่กี

สำหรับสิวอักเสบธรรมดามันจะเป็นตุ่มหนองเล็กๆก็คือเป็นแบบมันจุดหนองเล็กๆพวกนี้จะเริ่มมีเชื้อแบคทีเรียมาวุ่นวายกับตัวรูขุมขนอุตันของพวกเราแล้วพวกนี้อาจจะต้องใช้ยาทาฆ่าเชื้อแต่ว่าพอเป็นน้อยมันอาจจะยังไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ยากินการใช้ยากินมันก็จะมีผลเสียเกี่ยวกับไตเกี่ยวกับขับเรื่องของยาออกไปจากร่างกาย

เพราฉะนั้นแล้วหากไม่มีความจำเป็นก็ไม่ต้องไปกินสำหรับคนที่เป้นสิวอักเสบธรรมดายังไม่ต้องไปกินยาอะไรให้มันมากมายแบบนี้พวกสิวไม่อักเสบและสิวอักเสบธรรมดาอาจจะต้องเข้าไปปรึกษาเภสัชกรที่ร้านยาต่างๆได้อาจจะยังไม่ต้องไปพบแพทย์ทันทีแต่ถ้าใครสะดวกไปพบแพทย์ก็ได้แพทย์ผิวหนัง

ดังนั้นแล้วหากเป็นสิวอักเสบรุนแรงอันนี้ต่างกันไป สิวอักเสบรุนแรงตุ่มมันจะใหญ่เขาเรียกว่าNoduleหรือว่าเป็นCystโดยNoduleก็คือเม็ดใหญ่ๆCystก็คือเป็นโพรงหนองเลยพวกนี้น่ากลัวจริงๆแล้วเวลาบางคนติดเชื้อแล้วลามไปทั้งใบหน้าบางคนไปกดสิวไปกดเองเลือดพุ่งกระฉูดซะใจเชื้อมันก็จะเข้าไปทางที่คุณกดสิวแหละบางคนหนาเละมาเลยบางคนเป็นสิวสิบๆตุ่ม

โดยพวกนี้คุณหมอรักษาสิวรักษาได้คุณหมอผิวหนังโดยเฉพาะทางรักษาได้วิธีรักษาเยอะแยะอย่าไปมั่วเองไปหาคุณหมอแล้วชีวิตจะดีไม่อย่างนั้นมันจะฝากรอยแผลเป็นทั้งใบหน้าของท่านมันน่ากลัวมากๆ

นอกจากนี้ถ้าใครอยากสิวหายต้องรู้ข้อนี้นั่นก็คือสาเหตุของสิวสาเหตุของสิวแบ่งเป็นสองอย่างใหญ่ๆคือ สาเหตุภายในและสาเหตุภายนอกนั่นเอง สาเหตุภายในก็คือฮอร์โมนของเราและกรรมพันธุ์นั่นเองมันแก้ไขไม่ได้ฮอร์โมนมันก็จะหมดไปตามอายุ

ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเพศหญิงจะมาสัก14-17ฮอร์โมนจะแบบพีคส่วนเพษชายประมาณ16-19ช่วงนี้สิวจะมาเต็มมากแน่นมากแล้วก็จะเริ่มลดลงไปเรื่อยๆสัก30กว่าจะเริ่มใกล้หมดแล้วแต่บางท่านฮอร์โมนพลุ่งพล่านตลอด40สิวยังไม่หายเลยพวกนี้ก็ช่วยไม่ได้จริงๆในเรื่องของฮอร์โมนเราก้ต้องรักษาไปตามสภาพ

เนื่องจากนี้ในส่วนของกรรมพันธุ์ส่วนใหญ่ก็เช่นพวกผิวมันผู้ที่มีผิวมันก็มีโอกาสเกิดสิวมากกว่าผู้ที่มีผิวแห้งก็ฟังแล้วรู้สึกเศร้าใจแต่ต้องบอกว่าผู้ที่มีผิวมันก็หน้าเหี่ยวอยากกว่าผู้ที่มีผิวแห้งผู้ที่มีผิวแห้งจะหน้าเหี่ยวมากกว่าผู้ที่มีผิวมันก็ต้องแลกกันเพราะฉะนั้นถ้าเราผิวมันการเลือดโฟมล้างหน้าหรือเลือกครีมล้างหน้าเราก็เอาแบบลดไขมันบนใบหน้าอาจจะล้างบ่อยกว่าคนอื่นนิดหน่อย

สนับสนุนโดย  ซื้อหวยออนไลน์ เว็บไหนดี

เคยไหมที่สาวนั้นทาลิปแล้วรู้สึกว่าการที่เรานั้นทาลิปแล้วรู้สึกว่าปากของเราแห้งมากกว่าเก่าเพราะอะไร ในการที่เราทาลิปก็เพื่อที่จะไม่ให้ปากของเราเกิดอาการที่แห้งนั่นเองแต่ว่าการที่เรารู้สึกว่าริมฝีปากของเราแห้งและเกิดรอยที่แตกก็จะทำให้รู้สึกว่าไม่เป็นตัวของตัวเอง 

อาการเหล่านี้นั้นสามารถที่จะเกิดขึ้นได้ทุกคนเพราะว่าการที่เราทาลิปที่ไม่มีส่วนผสมที่ช่วยในการจะบำรุงฝีปากและในบางครั้งการที่เราทาแล้วเรารู้สึกว่าปากของเราเกิดเป็นขุยได้ง่ายมากยิ่งขึ้น 

ซึ่งเหล่านี้ก็สามารถที่จะทำให้เกิดอาการที่เรานั้นไม่รู้ว่าเราเกิดอาการที่แพ้ได้เหมือนกัน และเมื่อเรารู้สึกว่าเราเกิดอาการที่แพ้เราก็สามารถที่จะเปลี่ยนลิปมาใช้อย่างอื่นแทนได้เหมือนกัน  อย่างเช่นลิปกลอส ที่ทำให้รู้สึกว่าฉ่ำวาวนั่นเอง  

         สิ่งที่เราควรหลีกเลี่ยงเมื่อเกิดอาการแพ้นั้นก็สามารถที่จะเลี่ยงอย่างเช่นลิปที่รู้สึกว่ามีกลิ่นน้ำหอมที่ทำให้ปากของเรานั้นแห้งไปมากกว่าเดิมนั่นเอง เพราะในน้ำหอมที่ใส่มานั้นก็อาจจะเกิดอาการที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราแพ้ได้เหมือนกัน  ไม่ว่าจะเป็นการบูร ฟีนอล  แม้แต่เมนทอลที่ทำให้เรารู้สึกได้ว่ามีอาการแพ้ได้ ถึงแม้ว่าสารพวกนี้นั้นจะเป็นสารที่สกัสมาจากธรรมชาตินั้นก็สามารถที่จะทำให้เราเกิดอาการแพ้ได้เหมือนกันเพราะว่าซึ่งทั้งนี้ก็อยู่ที่ส่วนผสมและก็ผิวของเรานั่นเอง   

เคยรู้สึกไหมว่าทำไมปากเราทาลิปแล้วยังแห้ง เราเชื่อว่าหลายๆคนนั้นก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะว่า  แต่ว่าวันนี้เราก็เลยที่จะเปรียบเทียบให้ดูอย่างเช่นการที่เราเลือก  อย่างเช่นการที่เรารู้สึกว่าเรากินน้ำ  แต่ว่าเกิดกินน้ำหวานที่ทำรู้สึกว่าการที่เรากินเข้าไปแล้วรู้สึกว่าสดชื่น 

แต่ว่าทำไมการที่เรากินน้ำหวานเข้าไปแล้วแต่ยังรู้สึกว่าเราหิวน้ำเปล่าล่ะ  ก็เหมือนกัน  ริมฝีปากของเรานั้นก็เป็นอย่างนั้น เช่นกัน  เพราะว่าการที่เราทาลิปบ่อยเป็นเรื่องที่สามารถที่จะทำให้ริมฝีปากของเราเกิดอาการแห้งได้นั่นเอง  อย่างนี้เป็นต้น  

   ให้เรานั้นลองสังเกตว่าการที่เรารู้สึกว่าเราทาลิปบ่อย  ให้เรานั้นเลือกที่จะทาน้อยลงและสังเกตุว่าการที่เราทาลิปมันนั้นทำให้ปากของแห้งที่น้อยลงไหม  ถ้าแห้งน้อยให้เราเลือกที่จะเปลี่ยนเพราะว่าการที่เราใช้ไปอาจจะทำให้ปากของเราแห้งไปมากกว่าเก่านั่นเอง 

หรือว่าเรานั้นเลือกที่จะเปลี่ยนและพยายามที่จะหาเกี่ยวกับการบำรุงริมฝีปากนั่นเอง  เพราะว่าการที่จะช่วยในเรื่องริมฝีปากให้ชุ่มชื้นนั้นก็คือการที่เราเลือกเป็นวิตามินอีที่ช่วยในเรื่องของการที่ทำให้ริมฝีปากของเราชุ้มชื้นนั่นเอง จึงเหมาะกับสาวๆที่ปากนั้นแห้ง  

สนับสนุนโดย  ซื้อหวยออนไลน์ เว็บไหนดี

ซึ่งในการที่เรานั้นได้มีการสระผมในบางคนนั้นได้มีการสระผมไม่ถูกวิธีซึ่งในการที่เรานั้น จะทำการดูแลรักษาเส้นผมของเรา ที่จะทำให้เส้นผมของเรานั้นได้มีการไม่แห้งเสียนั้น สามารถที่จะทำได้อย่างไร ซึ่งในการที่เรานั้นจะทำการให้เส้นผมของเรานั้นได้มีความเงางามและไม่มีการแห้งเสียนั้น

สามารถที่จะทำการดูแลรักษาได้จากที่บ้าน ซึ่งจะสามารถที่จะทำได้โดยง่าย และสามารถที่จะทำการรักษาได้โดยที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรให้เกิดการยุ่งยาก และในวิธีที่จะสามารถทำการดูแลรักษาเส้นผมให้ดีนั้นก็คือ

1. การที่เรานั้นมีการนวดหัว

ในการที่เรานั้นจะทำการสระผมได้โดยที่เรานั้นมีการนวดที่ศีรษะ หรือหัวของเรานั้น จะสามารถที่จะทำให้เรานั้น เรานั้นจะสามารถมีการเพิ่มขึ้นของน้ำมันธรรมชาติ ที่มากกว่าเดิม

2. การที่เรานั้นได้มีการหวีผมหลังสระเสร็จ

ในการที่เรานั้นได้มีการหวีผมในขณะที่เรานั้น หลังจากที่เรานั้นทำการสระผมเสร็จมานั้น จะทำให้ผมของเรานั้นเกิดการขาดได้ ซึ่งเป็นเพราะว่าในการที่เส้นผมของเรานั้นได้มีการเปียกอยู่นั้น จะเป็นเวลาที่เส้นผมของเรานั้นได้มีการอ่อนไหวได้ง่ายมากที่สุด และในการที่เรานั้นจะทำการหวีผมเรานั้นเราควรที่จะทำการหวีด้วย หวีที่มีซี่ของหวีที่ห่าง เพื่อที่จะทำการลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผมอีกด้วย

3. การไดร์ผม

ในการที่เรานั้นได้มีการไดร์ผมเราควร ที่จะทำการไดร์ผมให้ถูกวิธี ซึ่งในการที่เรานั้นจะทำการไดร์ผมให้ถูกวิธีนั้น เราควรที่จะทำการเริ่มไดร์ผมของเรานั้น เราจะทำการเริ่มไดร์ผมที่โคนผมของเรานั้น ไล่ไปจะถึงปลายผมของเรา ซึ่งในการที่เรานั้นได้มีการไดร์ผมด้วยวิธีนี้นั้นจะทำการเส้นผมของเรานั้นได้มีการเรียงอย่างเป็นธรรมชาต และทำให้เส้นผมของเรานั้นไม่เกิดการแห้งเสียอีกด้วย

4. การที่เรานั้นได้มีการทำการป้องกันเส้นผมของเราจากความร้อน

การที่เส้นผมของเรานั้นทำการโดนความร้อนมากๆ หรือมีการที่เส้นผมของเรานั้นมีการโดนแดดนั้น จะสามารถทำให้เส้นผมของเรานั้นได้เกิดการแห้งเสียได้ ซึ่งในการที่เรานั้นทำการไดร์ผมหรือได้มีการออกไปข้างนอกนั้้น เราควรที่จะมีการทำการป้องกันก่อน โดยที่สามารถทำการใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันผมของเราก่อน ซึ่งในการที่เรานั้นได้มีการออกไปเจอแดดนั้น เราก็ควรทำการหาหมวกมาใส่เพื่อที่จะทำการป้องกันผมไม่ให้แห้งเสียอีกด้วย

สนับสนุนโดย    แทงหวยหุ้นออนไลน์

ในแสงแดดนะมีสารมากมายที่ทำให้เกิดอันตรายได้หลายอย่าง ซึ่งในแสงแดดนั้นไม่ได้มีสิ่งที่ทำให้เรานั้นมีผิวดำเสียอย่างเดียวแต่มีสารที่ทำให้เรานั้นเกิด อันตรายต่อร่างกายของเรานั้นมากด้วย

และในประเทศไทยนั้นมีแดดแรงเป็นอย่างมากซึ่งส่งผลให้ได้รับอันตรายต่อร่างกายมากเช่นเดียวกัน และแสงแดดนั้นมีอันตรายมากมายเช่นดังนี้

1. เกิดสภาวะการเกิดผิวไหม้แสบหรือหลอกได้ ซึ่งในการที่เรานั้นตากแดดมากๆระดับของแสง UV ที่อยู่ในแถบนั้นมีสภาวะเข้มข้นมากขึ้น  ที่อยู่ในแถบนั้นมีสภาวะเข้มข้นมากขึ้น เพิ่งจะทำให้ผิวหนังของเรานั้นเกิดสภาวะลอกดำหรือแสบไหม้ได้เลย ซึ่งจะเป็นอาการที่เรียกว่า sunburn โดยที่ผิวหนังของเรานั้นจะเกิดอาการแดงแบบลอกได้ซึ่งจะทำให้ผิวหนังนั้นเกิดอาการเสีย
2. ทำให้เกิดฝ้า จุดด่าง ดำและริ้วรอยบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีการค้นพบว่าในแดด นั้นเป็นตัวที่ทำให้ผิวของเรานั้นเกิดการเสียมากที่สุด และถ้าหากเรานั้นไม่ได้มีการใช้ครีมกันแดด จะมีผลทำให้เกิดรอยดำหรือจุดด่างดำบนใบหน้าได้มากกว่าคนที่ทำการใช้ครีมกันแดด 
3. การที่ทำให้เรานั้นเกิดมะเร็งผิวหนังได้ ซึ่งในคนแถบทวีปเอเชียนั้นมีผิวที่เข้มกว่าชาวยุโรปแต่ก็มีสภาวะเสี่ยงของโรคมะเร็งผิวหนังนั้นเหมือนกันแต่จะเกิดขึ้นได้น้อยกว่าชาวยุโรป ซึ่งได้มีการกล่าวไว้ว่าถ้าหากเรานั้นทำการตากแดดเป็นเวลา 15 นาที นั้นอาจะทำให้แสง UV นั่นก็สามารถทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายของเรานั้นเกิดสภาวะต่ำและอาจจะเกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้
4. สามารถส่งผลกับดวงตาทำให้ตาบอดได้อีกด้วย ซึ่งรังสี UV นั้นสามารถทำให้เกิดการส่งผลต่อดวงตาของเราได้อีกด้วย ซึ่งเมื่อมีการที่สัมผัสกับแสง UV เป็นระยะเวลานานนั้นจะทำให้เซลล์เยื่อบุตาขาวนั้นทำการสร้างโปรตีน และไขมันมากกว่าปกติและอาจจะทำให้เกิดโรคต้อลมหรือต้อเนื้อได้ด้วย
5. ทำให้เกิดโรคลมแดดได้ ซึ่งในการที่เรานั้นทำการอยู่แสงแดดเป็นเวลานานและได้รับความร้อนเป็นอย่างมากนั้น จะทำให้ร่างกายของเรานั้นทำการขับความร้อนออกมาไม่ทัน ซึ่งจะทำให้ความร้อนนั้นเกิดการสะสมของความร้อนในร่างกายของเราอยู่มาก และถ้าเกิดเรานั้นเกิดสภาวะขาดน้ำ นั้นจะทำให้เราเกิดอาการหน้ามืดและอาจจะเกิดการเป็นลมได้และอาจจะเสียชีวิตได้ด้วยถ้าเกิดอาการนั้นร้ายแรง

สนับสนุนโดย  เว็บหวยออนไลน์อันดับ1

สำหรับอาหารที่จะช่วยชะลอไตเสื่อมก่อนวัยอันควรนั่นก็คือ น้ำมันมะกอก นั่นเองถามว่าน้ำมันมะกอกมันมาเกี่ยวอะไรกันในเรื่องของโรคไตก็ต้องบอกแบบนี้ว่าทุกอย่างมันมีความเกี่ยวพันกันไปหมดและน้ำมันมะกอกเป็นไขมันชั้นดีมากๆเมื่อเรารับประทานกันอย่างถูกต้องและถูกวิธีจะทำให้ไขชั้นเลวที่อยู่ในร่างกายเราลดลง

เมื่อไขมันชั้นเลวที่อยู่ในร่างกายของเราได้ลดลงและสิ่งที่มันจะตามมาก็คือหลอดเลือดทั่วร่างกายของเราไม่โดนอุดตันเหมือนท่อน้ำมี่มันไม่มีไขมันเข้ามาเกาะเลือดมันก็จะไปทำงานไปเลือดสมองได้ดีไปเลี้ยงไตดีสุขภาพดีไปหมดเลยแล้วยังไม่พอตัวของน้ำมันมะกอกยังได้มีวิจัยอย่างมากมายช่วยคุมความดันช่วยคุมเบาหวานนู่นนี่นั่นโน่นเยอะแยะมันไม่ใช่ยารักษาน้ำมันมะกอก

ซึ่งบอกตัวบอกว่าไปกินน้ำมันมะกอกเพื่อที่จะแก้เบาหวานแก้ความดันไม่ใช่อย่างนั้นไม่ใช่มันเพียงแต่วันเราจะช่วยทำให้อาการพวกนี้สามารถคุมได้ดีขึ้นรักษาได้ดีขึ้นเมื่อทานยาปกติอยู่แล้วหรือการออกกำลังกายควบคู่กันไปต่างหากการรับประทานน้ำมันมะกอกที่ถูกต้องข้อแรกทานวันละไม่เกิน2ช้อนโต๊ะทานเกินนี้แคลอรี่สูงจนเกินไปไม่แนะนำ

เพราะฉะนั้นแล้วน้ำมันมะกอกแนะนำให้เป็นน้ำมันมะกอกที่ ( เขียนว่าเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้น ) คือบริสุทธิ์สุดเป็นน้ำมันมะกอกชั้นดีสุดๆถ้าจะทานและการทานแนะนำให้ใช้เป็นสลัดหรือว่าเป็นแบบน้ำสลัดอย่างงี้ได้ประโยชน์สูงสุดบางคนบอกไม่ชอบกินสลัดอย่างนี้ได้คือสมมุติว่าคุณอยากเอาไปใส่ในแกงจืดก็เอาแกงจืดที่ต้มแล้วมาใส่น้ำมันทีหลังไม่ใช่เอาน้ำมันมะกอกใส่เข้าไปแล้วเอาไปต้มอย่างนี้ไม่ได้น้ำมันมะกอกโดนมากๆเกิน180องศาจะมีคุณประโยชน์จะมีโทษทันที

เนื่องจากนี้เมื่อคุณเอาน้ำมันมะกอกไปผัดไปทอดจนควันโขมงขึ้นจะมีคุณประโยชน์มีโทษทันทีจำไว้แม่นๆเลยจำเอาไว้ให้ดีๆเลยคราวนี้อาหารต่อมาสำหรับการชะลอไตเสื่อม ผัก นั่นเอง เพียงแต่ว่าผัดอันนี้มันีลายละเอียดก็คือจะเป็นผักกลุ่มที่มีสีเขียวอ่อนๆเช่นฟัก แตงกวา มะระก็ได้ ถั่วฝักยาวก็โอเค ผักกาดขาวก็ได้ ถามว่าทำไมก็เพราะว่าผัดกที่มีสีเขียวอ่อนๆจะมีโพแทสเซียมต่ำ

โดยผู้ป่วยที่มีภาววะไตบกพร่องควรจะกินผักที่มีโพแทสเซียมต่ำเพราะขับโพแทสเซียได้ยากลำบากก็แนะนำถ้าคุณอยากเอาโพแทสเซียออกอีกเอาไปต้มหั่นเล็กๆแล้วเอาไปต้มแล้วเอาตัวผักมากินห้ามกินน้ำที่ต้มอย่างเด็ดขาดเพราะว่าน้ำที่ต้มนั่นละลายโพแทสเซียออกไปเต็มเลยนี่ก็คือเทคนิดการกินผักเพื่อชะลอไตเสื่อมนั่นเอง

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์