ไม่ว่าคุณจะเป็นใครในโลกใบนี้มนุษย์ทุกคนย่อมมีสิทธ์เท่าเทียมกัน ทั้งในด้านการศึกษา และในด้านที่จะได้สิทธิที่จะได้เข้ารับการรักษา ไม่ว่าคูณจะเป็นคนรวยระดับมหาเศรษฐีพันล้าน คนที่มีฐานะปานกลาง หรือแม้แต่คนที่มีฐานะที่ยากจน ทุกคนล้วนที่จะได้รับสิทธิ์ในด้านต่างที่มีความเท่าเทียมกัน เช่นเดียวกับผู้ที่ติดเชื้อ HIV หรือก็คือคนที่เป็นโรคเอดส์นั้นเอง

สำหรับผู้ที่ติดเชื้อ HIV หรือเป็นโรคเอดส์นั้นชีวิตของเขาก็แย่มากพออยู่แล้ว และถ้าคนรอบข้างยังหรืคนในครอบครัวยังไม่เขาใจก็คงจะเป็นเรื่องยากที่จะทำให้คนภายนอกยอมรับและเขาใจได้ สำหรับผู้ที่เป็นโรคเอดส์เราควรจะปฏิบัติกับเขาให้เหมือนๆ กับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรังอื่นๆ

ทั้งในด้านสวัสดิการต่างๆ ที่เขาควรจะได้รับ และในเรื่องการทำงาน สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเอดส์ควรที่จะได้เขาทำงานเหมือนกับคนปกติทั่วไป เพราะการที่เขาเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่มีความสามารถในการทำงาน

ดังนั้นเราไม่ควรที่จะตัดสินเขาเพียงเพราะโรคที่เขาเป็น และบริษัทหลายๆแห่งในประเทศก็ควรที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยโรคเอดส์ได้มีโอกาสในการทำงานเพื่อที่จะเป็นการแบ่งเบาภาระของครอบครัว หรือสามารถหาเลี้ยงครอบครัวได้ บริษัทต่างควรจะมีนะโยบายเพื่อให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดีสำหรับพนักงานที่เป็นโรคเอดส์เพื่อให้เขาได้มีกำลังในการที่ตั้งใจทำงานอย่างนักให้กับบริษัทของคุณ

แล้วยังมีกำลังใจที่จะสามารถมีชีวิตบนโลกใบนี้กับคนที่เขารักได้มากขึ้นอีกด้วย สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักโรคเอดส์ดีพออาจจะมองผู้ป่วยด้วยความรังเกียจ ไม่อยากที่จะเข้าใกล้และบางครั้งอาจจะมีการปล่อยข่าวลือที่เสียหายเกี่ยวกับผู้ป่วยออกไปจนทำให้มันมาบั่นทอนจิตใจของเขาไดจนทำให้มีผลกระทบกับงานอีกด้วย

อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่ยังไม่รู้จักโรคเอดส์ดีพอเราไม่ควรที่จะเอาไปพูดในทางที่ไม่ดี หรือการปล่อยข่าวลือที่เสียหายออกไป เราควรที่จะศึกษาและทำความเข้าใจกับโรคนี้ให้มากพอ พอสำหรับที่จะเราจะสามารถมองผู้ป่วยโรคนี้เป็นคนปกติธรรมดาที่สามารถอยู่ในสังคมกับเราได้

โดยที่ต่างฝ่ายต่างที่จะยอมรับซึ่งกันและกัน เพราะถ้าลองคิดกลับเป็นฝ่ายเราที่โดนปล่อยข่าวลือนั้นออกไปบางทีมันอาจจะนักโดยที่เราไม่สามรถที่จะรับมันไหวเลยก็ได ดังไม่ว่าจะคิดจะพูดหรือจะทำอะไรก็ตามก็ควรที่จะเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มากๆ

สนับสนุนเรื่องราวโดย  ชุดตรวจ hiv