น้ำแร่ดีกว่าน้ำเปล่าอย่างไรแล้วเราควรเลือกซื้ออะไรกินกันแน่

น้ำแร่มีบทบาทในชีวิตของคนมากขึ้นเพราะเชื่อว่าคนหันเริ่มมาดื่มน้ำแร่กันเยอะขึ้นหนึ่งอาจจะเป็นเพราะสาเหตุมาจากการโฆษณาการบอกกล่าวจึงทำให้น้ำแร่มีราคาที่สูงและคนหันมานิยม แต่คุณจะรู้หรือไม่ว่าน้ำแร่หรือว่าน้ำเปล่านั้นอะไรที่มันดื่มแล้วมีประโยชน์มากกว่ากันเราควรที่จะลงทุนในการซื้อน้ำแร่หรือน้ำเปล่ามาดื่มกันแน่เพราะว่าราคามันก็ช่างแตกต่างกันเหลือเกิน

นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราจะต้องนำเรื่องของน้ำแร่และน้ำเปล่ามาพูดให้คุณได้เข้าใจว่าควรจะตัดสินใจเลือกอะไรมากินดีกว่านะดังนั้นมาดูข้อมูลของแต่ละน้ำกันเลยว่าอันไหนมันดีอันไหนไม่ดีหรือควรจะกินอันไหนดีกว่า

 

1.น้ำแร่ คืออะไร

น้ำแร่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นน้ำที่พบว่ามีแร่ธาตุค่อนข้างสูงได้มาจากสิ่งที่เป็นธรรมชาติแหล่งธรรมชาติหรือที่เราเรียกว่าน้ำบาดาลมักจะพบได้จากน้ำที่มันผุดเกิดขึ้นตามธรรมชาตินั่นเอง น้ำแรกที่เรารู้จักนี้ไม่ได้ผลิตขึ้นจากน้ำเปล่าแล้วเติมสารต่างๆเข้าไปแต่มันเป็นการนำจากธรรมชาติมาแล้ววิเคราะห์ว่ามันมีสารต่างๆในน้ำที่ส่งผลดีต่อร่างกายของเรา

 

2.น้ำเปล่า คืออะไร

น้ำเปล่าคือน้ำที่ได้จากธรรมชาติเช่นกันแต่มีการกองการกลั่นเอาสิ่งไม่ดีออกจากน้ำทำให้น้ำมันใสขึ้นน่าทานมากขึ้น แต่ถ้าเราไปวิเคราะห์แล้วน้ำเปล่านี้จะมีสารน้อยกว่าน้ำแร่ ซึ่งสารต่างๆที่มากับน้ำแร่ก็มีอยู่ในน้ำเปล่าของเราเช่นกันเพียงแค่มันเจือจางมากกว่าเท่านั้นเอง

เราควรเลือกทานอะไรระหว่างน้ำแร่กับน้ำเปล่า

ถึงแม้ว่าน้ำเปล่าจะมีสารเจือจางที่น้อยกว่าแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าน้ำเปล่าจะไม่มีประโยชน์อันที่จริงเรามองว่าน้ำเปล่ามีประโยชน์มากกว่าน้ำแร่นะเพราะน้ำแร่จะมีสารพวกนั้นแต่เราก็สามารถที่จะทานอาหารก็มาได้ทำให้ราคาในการเปรียบเทียบในการที่เราจะซื้อน้ำเปล่าจึงมีคุณค่ามากกว่าเพราะได้ราคาถูกและมีสารอาหารเหล่านั้นครบเหมือนกันซึ่งถ้าเราต้องการสารอาหารที่เพิ่มเติมเราก็สามารถรับได้จากการรับประทานอาหารในแต่ละวันอยู่แล้ว

 

แต่สำหรับผู้มีกำลังถึงมีเงินมากพอที่จะซื้อน้ำแร่มาทานก็ไม่ได้ผิดเช่นกันเพราะการดื่มน้ำแรกก็เท่ากับการเติมวิตามินต่างๆให้เข้ากับร่างกาย อย่างไรก็ตามปัจจัยในการคิดที่จะซื้อน้ำแร่หรือน้ำเปล่ามากินก็ต้องดูว่าเงินในกระเป๋าของคุณสามารถซื้ออะไรได้มากกว่ากันถ้าหากคุณเงินซื้อได้แค่น้ำเปล่าแต่ดันทุลังไปซื้อน้ำแรกก็อาจจะทำให้คุณเดือดร้อนเรื่องการเงินได้นะ

 ถ้าถามเราเราก็คงถามกลับว่าคุณมีกำลังพอที่จะซื้อน้ำแร่มาทานทุกมื้อหรือไม่หรืออาจจะซื้อน้ำเปล่ามากินแล้วน้ำแร่ฐานเป็นบางมื้อก็ได้เช่นกันไม่มีสิ่งไหนผิดไม่มีสิ่งไหนถูกเพราะเราได้จากสารอาหารจากที่อื่นก็มีดังนั้นการเลือกซื้อจึงเหมาะกับบุคคลที่มีเงินระดับไหนแค่นั้นเอง

 

สนับสนุนโดย    ฮอยอาน่า

รู้หรือไม่ ผู้ชายก็มีปัญหาตรงบริเวณจุดซ่อนเร้นได้เหมือนกัน

เวลาที่เรามีการพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพร่างกาย ตรงบริเวณจุดซ่อนเร้น ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะมองเป็นว่าคนที่เป็นนั้นคือผู้หญิง แต่แท้ที่จริงแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่ผู้หญิงเท่านั้นที่เป็น เพราะผู้ชายก็สามรถมีปัญหาตรงบริเวณตรงจุดซ่อนเร้นได้เหมือนกัน

 

สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นที่จุดซ่อนเร้นในผู้ชายไม่ใช่เหมือนกับผู้หญิง เนื่องจากสาเหตุที่เกิดปัญหานั้นแตกต่างกันไประหว่างเพศสองเพศ ในผู้ชายอาจมีปัญหาเช่นการตั้งแต่งตัวของเนื้อเยื่อที่ทำให้เกิดภาวะตรงนี้ เช่น การอักเสบที่หลังการตั้งแต่งตัว (posthitis) หรือการอักเสบที่ขอบปากอวัยวะเพศ (balanitis)

ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการดูแลเวลาทำความสะอาดที่ไม่เพียงพอหรือมีการใช้สบู่หรือน้ำยาทำความสะอาดที่ไม่เหมาะสม

ในกรณีที่มีปัญหาที่จุดซ่อนเร้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้ได้การวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม การเอาเสมอก็เป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นต่อไป

การรักษาปัญหาที่เกี่ยวข้องกับบริเวณจุดซ่อนเร้นของผู้ชายอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา เพื่อให้ได้การรักษาที่ถูกต้อง ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ แต่อย่างไรก็ตาม ข้อแนะนำทั่วไปบางอย่างที่สามารถช่วยในการดูแลรักษาได้ มีดังนี้

  1. การรักษาความสะอาด: 

    – ล้างบริเวณจุดซ่อนเร้นด้วยน้ำอุ่นและสบู่ที่มีสูตรอ่อนโยน หลีกเลี่ยงการใช้สบู่ที่มีส่วนผสมของสารเคมีแรง ๆ

    – เช็ดให้แห้งทุกครั้งหลังอาบน้ำหรือเข้าห้องน้ำ

  1. การใช้ยา: 

    – หากมีอาการคัน แดง หรืออักเสบ อาจใช้ครีมหรือยาที่แพทย์แนะนำ เช่น ครีมต้านเชื้อรา หรือครีมต้านแบคทีเรีย

    – ยาปฏิชีวนะหรือยาต้านเชื้อราตามที่แพทย์สั่ง หากมีการติดเชื้อ

  1. การหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น: 

    – หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง เช่น สบู่ที่มีกลิ่นหอม น้ำหอม หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของสารเคมี

    – หลีกเลี่ยงการสวมใส่เสื้อผ้าที่คับเกินไปหรือที่ทำจากวัสดุที่ไม่ระบายอากาศ

  1. การดูแลสุขภาพทั่วไป: 

    – รักษาสุขอนามัยทั่วไปโดยการอาบน้ำทุกวันและเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สะอาด

    – ดื่มน้ำมาก ๆ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

  1. การตรวจสุขภาพ: 

    – หากมีอาการที่ไม่หายไปหรือแย่ลง ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย

    – การตรวจร่างกายเป็นประจำสามารถช่วยตรวจพบปัญหาต่าง ๆ ในระยะเริ่มต้น

  1. การป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์: 

    – ใช้ถุงยางอนามัยในการมีเพศสัมพันธ์เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ

    – หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่มีประวัติหรืออาการของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

การรักษาที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยและคำแนะนำจากแพทย์ ดังนั้น  ตรวจสุขภาพ   ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อรับการดูแลที่เหมาะสมที่สุด

ปลาหางนกยูง เอเลี่ยนสปีชีส์ ก่อนที่จะมาอยู่ไทย และมาเป็นเป็นที่นิยมของคนไทย

ปลาหางนกยูง (Guppy) หรือที่รู้จักกันในชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Poecilia reticulata ซึ่งเป็นปลาที่คนไทยนิยมเลี้ยงเพื่อความสวยงาม ปลาชนิดนี้ เป็นปลาน้ำจืดขนาดเล็กที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบอเมริกาใต้ โดยเฉพาะบริเวณประเทศเวเนซุเอลาและบราซิล ปลาหางนกยูงเป็นหนึ่งในเอเลี่ยนสปีชีส์ที่มีการแพร่กระจายไปยังหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย

ในช่วงศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 ปลาหางนกยูงได้รับการนำเข้ามาในหลายประเทศเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงสวยงาม

เนื่องจากปลาชนิดนี้มีสีสันสดใส ลักษณะลำตัวและหางที่สวยงาม อีกทั้งยังมีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ปลาหางนกยูงมีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับน้ำที่มีคุณภาพแตกต่างกันและสามารถทนต่อความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้ดี จึงทำให้สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วในพื้นที่ที่มีการนำเข้า

สำหรับในประเทศไทย ปลาหางนกยูงเริ่มถูกนำเข้ามาในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20 โดยเริ่มแรกถูกนำเข้ามาเพื่อใช้เป็นปลาประดับในตู้ปลาของคนมีฐานะ เนื่องจากเป็นปลาที่มีสีสันสดใสและลวดลายที่สวยงาม ปลาหางนกยูงกลายเป็นที่นิยมของคนไทยอย่างรวดเร็ว

เนื่องจากเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ไม่ต้องการการดูแลที่ยุ่งยาก และสามารถขยายพันธุ์ได้รวดเร็ว ปลาหางนกยูงจึงกลายเป็นปลาที่พบเห็นได้ทั่วไปในตู้ปลาของครอบครัวคนไทย

นอกจากจะเป็นปลาที่นิยมเลี้ยงเป็นปลาประดับแล้ว ปลาหางนกยูงยังถูกนำมาใช้ในการควบคุมยุง

เนื่องจากปลาหางนกยูงมีนิสัยชอบกินลูกน้ำหรือยุงที่วางไข่ในน้ำ สิ่งนี้ทำให้ปลาหางนกยูงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันโรคที่เกิดจากยุง เช่น ไข้เลือดออก และโรคมาลาเรีย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีปัญหาเรื่องยุงอย่างเช่นในชนบท

การที่ปลาหางนกยูงสามารถขยายพันธุ์ได้ง่ายและรวดเร็ว ทำให้ปลาหางนกยูงสามารถเติบโตอย่างรวดเร็วในสภาพแวดล้อมต่างๆ ในประเทศไทย โดยเฉพาะในน้ำที่มีสภาพคล้ายคลึงกับแหล่งกำเนิดในธรรมชาติของมัน อย่างไรก็ตาม การแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของปลาหางนกยูงในแหล่งน้ำธรรมชาติกลับก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศในบางพื้นที่

เนื่องจากปลาหางนกยูงเป็นปลาที่แข่งขันในการหาอาหารและทรัพยากรอื่น ๆ กับสัตว์น้ำพื้นเมือง จนทำให้จำนวนประชากรของสัตว์น้ำพื้นเมืองลดลง

ปัจจุบัน ปลาหางนกยูงยังคงเป็นปลายอดนิยมในการเลี้ยงเป็นปลาสวยงามและเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้าน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้เลี้ยงปลาตู้ เนื่องจากมีสีสันสวยงาม หลากหลายสายพันธุ์ให้เลือก และยังมีการจัดประกวดความสวยงามของปลาหางนกยูงในงานต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย นับเป็นปลาชนิดหนึ่งที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับวัฒนธรรมการเลี้ยงสัตว์น้ำในประเทศไทย

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังต้องใส่กี่ข้าง

สุขภาพฟันที่ดีต้องทำอย่างไร

การมีสุขภาพฟันที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยให้เรามีรอยยิ้มที่สวยงาม แต่ยังช่วยส่งเสริมสุขภาพโดยรวมของร่างกายอีกด้วย การดูแลสุขภาพฟันที่ดีต้องทำอย่างไรบ้าง ลองมาดูกันทีละขั้นตอน

  1. การแปรงฟันอย่างถูกวิธี

การแปรงฟันเป็นสิ่งพื้นฐานที่สุดในการดูแลฟัน เราควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 2 นาที โดยใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ ซึ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเคลือบฟันและป้องกันฟันผุ การแปรงฟันควรใช้แปรงสีฟันที่มีขนอ่อนนุ่ม เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองต่อเหงือก ควรแปรงให้ทั่วถึงทุกซี่ โดยให้แน่ใจว่าครอบคลุมทั้งผิวหน้าฟันด้านหน้า ด้านใน และด้านบดเคี้ยว

  1. การใช้ไหมขัดฟัน

การใช้ไหมขัดฟันช่วยกำจัดคราบพลัคและเศษอาหารที่ตกค้างระหว่างซี่ฟัน ซึ่งแปรงสีฟันไม่สามารถเข้าถึงได้ การใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดฟันผุและโรคเหงือก การใช้ไหมขัดฟันควรทำด้วยความระมัดระวัง ไม่กดแรงเกินไป เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บเหงือก

  1. การล้างปากด้วยน้ำยาบ้วนปาก

น้ำยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์หรือส่วนผสมของสารฆ่าเชื้อโรคสามารถช่วยลดปริมาณแบคทีเรียในช่องปาก ลดกลิ่นปาก และป้องกันฟันผุ ควรใช้น้ำยาบ้วนปากเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพฟัน แต่ไม่ควรใช้แทนการแปรงฟันและไหมขัดฟัน

  1. การรักษาอาหารที่ดีต่อสุขภาพฟัน

การรับประทานอาหารที่ดีและหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดฟันผุ อาหารที่ควรรับประทานได้แก่ ผักผลไม้สดที่มีเส้นใยสูง ช่วยทำความสะอาดฟันและกระตุ้นการผลิตน้ำลาย ซึ่งมีส่วนช่วยล้างคราบอาหารและแบคทีเรีย น้ำดื่มที่มีฟลูออไรด์จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของฟัน และการเคี้ยวหมากฝรั่งที่ไม่มีน้ำตาลจะช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำลาย ทำให้ปากชุ่มชื่นและป้องกันฟันผุ

  1. การตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำ

การพบแพทย์ทันตกรรมอย่างน้อยปีละ 2 ครั้งเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพฟัน การตรวจสุขภาพฟันจะช่วยตรวจพบปัญหาฟันและเหงือกในระยะแรกเริ่ม ทำให้สามารถรักษาได้ทันท่วงที การทำความสะอาดฟันโดยทันตแพทย์จะช่วยกำจัดคราบพลัคที่สะสมอยู่บริเวณที่แปรงสีฟันเข้าถึงยาก และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเหงือก

  1. หลีกเลี่ยงนิสัยที่ทำลายฟัน

นิสัยบางอย่างสามารถทำลายสุขภาพฟัน เช่น การกัดเล็บ การใช้ฟันกัดสิ่งของแข็ง เช่น ขวดหรือปากกา ซึ่งอาจทำให้ฟันบิ่นหรือแตกได้ การสูบบุหรี่ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำลายสุขภาพฟันและเหงือก ทำให้เกิดคราบสีน้ำตาลบนฟัน มีกลิ่นปาก และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคเหงือก

  1. การใส่ใจต่อสุขภาพเหงือก

สุขภาพเหงือกเป็นส่วนสำคัญของสุขภาพฟัน การดูแลเหงือกโดยการแปรงฟันเบาๆ ใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี และหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เหงือกอักเสบ จะช่วยรักษาสุขภาพเหงือกให้ดีและป้องกันการเกิดโรคเหงือกได้

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟัง มีไว้ทำอะไร

เพิ่มพื้นที่จัดเก็บในบ้าน เปลี่ยนแปลงบ้านเกลื่อนกลาดให้ชวนชม

เพิ่มพื้นที่จัดเก็บในบ้าน เปลี่ยนแปลงบ้านเกลื่อนกลาดให้ชวนชม บ้านเกลื่อนกลาดดูไปทางไหนก็น่าระอา ถึงเวลาเปลี่ยนแปลงบ้านใหม่ให้กว้างใหญ่แล้วก็น่าอยู่ พร้อมทวงคืนพื้นที่ใช้สอยจากข้าวของเครื่องใช้รุงรังให้เปลี่ยนเป็นพื้นที่ใช้งานสุดล้ำ พร้อมตอบปัญหาการใช้แรงงานอย่างพอดี

ชั้นวางจัดเก็บของ เพิ่มฝาผนังชั้นวางสำหรับจัดเก็บเครื่องใช้ในมุมห้องรับแขกให้เรียบร้อยเพิ่มขึ้น บางทีอาจเลือกใช้ตู้ชั้นวางที่มาพร้อมบานเปิด-ปิด

เพื่อหลบซ่อนเครื่องใช้ด้านในตู้ให้มิดชิดและไม่เกลื่อนกลาดสายตา หรือบางทีอาจเลือกเปิดในบางข้อด้อยการเลือกใช้ตู้ชั้นวางที่มาพร้อมวางแบบบานเปิดเตียนโล่ง

ซึ่งเหมาะกับโชว์สิ่งของออกแบบงามที่มีอยู่ให้เด่น ไม่ว่าจะเก็บให้มิดหรือโชว์ให้สุด ก็พร้อมจัดแบ่งพื้นที่ใช้สอยในรอบๆนี้ให้เรียบเตียนโล่งสะอาดตาแล้วก็เข้าที่เข้าทางมากยิ่งกว่าเดิม

 

พื้นที่จัดเก็บใต้เตียง เครื่องเรือนหลากฟังก์ชั่นช่วยทำให้การพักอาศัยเป็นเรื่องที่ไม่ยากและก็มัธยัสถ์พื้นที่ใช้สอยมากยิ่งขึ้น ทดลองเปลี่ยนแปลงจากเตียงแบบเดิมที่รู้จัก แล้วหันมาเลือกใช้เตียงที่มีดีไซน์หลายฟังก์ชั่น ซึ่งมาพร้อมพื้นที่จัดเก็บสิ่งของรอบๆใต้เตียง

โดยเลือกแบบอย่างให้เหมาะสมกับการใช้แรงงานที่ปรารถนา อย่างเช่น ฟังก์ชั่นจัดเก็บแบบบานเปิด-ปิด ฟังก์ชั่นลิ้นชักจัดเก็บ และก็ในเตียงบางรุ่นอาจมาพร้อมออกแบบพิเศษซึ่งสามารถปรับใช้เป็นมุมดำเนินงานแบบโต๊ะลิ้นชักเลื่อน ซึ่งสามารถจัดเก็บได้สบาย ก็จะช่วยออมพื้นที่ใช้สอยด้านในห้องได้มากเพิ่มขึ้น

ชั้นวางบิลท์อินพร้อมฟังก์ชั่นเตียงนั่งพักผ่อน พื้นที่จัดเก็บในแนวดิ่งนับเป็นลู่ทางสำคัญที่ช่วยรังสฤษฏ์พื้นที่ด้านในภายให้เรียบร้อยและไม่สิ้นเปลืองพื้นที่ใช้สอยที่มีอยู่ สำหรับเครื่องเรือนสำหรับจัดเก็บในบ้านในตอนนี้จะนิยมวางแบบเป็นตู้บิวท์อินทรงสูงจากพื้นถึงเพดาน

ซึ่งมาพร้อมช่องชั้นซึ่งสามารถจัดเก็บสิ่งของในบ้านได้มากมาย แล้วก็ยังมีสเปซที่เหมาะกับการโชว์ของสะสมแล้วก็ของตกแต่งออกแบบสวยสดงดงามเพื่อใช้สำหรับในการตกแต่งบ้านด้วยเช่นเดียวกัน ไอเดียการตกแต่งบ้านในสไตล์นี้ก็เลยเป็นคำตอบที่พอดี

สำหรับการเปลี่ยนแปลงบ้านเกลื่อนกลาดให้ชวนชมมากยิ่งกว่าเดิม หรือบางทีอาจเพิ่มเติมอีกออกแบบพิเศษโดยการออกแบบเครื่องเรือนสำหรับนั่งพักผ่อนพักซึ่งสามารถหลบซ่อนเก็บได้อย่างกลมกลืนไปกับตู้บิวท์อินข้างในบ้าน เพื่อช่วยอดออมพื้นที่ใช้งานให้มุมบ้านมีสเปซที่กว้างใหญ่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

พื้นที่จัดเก็บใต้โซฟา มุมโซฟานั่งพักผ่อนของบ้านก็สามารถเป็นหลักที่จัดเก็บของใช้ที่อยู่ภายในบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อยได้เช่นเดียวกัน โดยการเลือกใช้โซฟาหรือม้านั่งที่มาพร้อมฟังก์ชั่นจัดเก็บรอบๆใต้ที่นั่ง บางออกแบบอาจมาพร้อมลิ้นชักจัดเก็บซึ่งสามารถหลบซ่อนความรกรุงรังไว้ได้อย่างแนบเนียน หรือบางวางแบบบางทีอาจวางแบบเป็นหลักที่จัดเก็บเปิดเตียนเพื่อไม่ยุ่งยากต่อการจับใช้งาน

แต่ว่าถ้าปรารถนา DIY เครื่องเรือนนั่งพักผ่อนข้างในบ้านเพื่อใช้งานก็สามารถเลือกใช้สิ่งของเหล็กหรือไม้พาเลทเป็นองค์ประกอบหลัก

วางแบบพื้นที่จัดเก็บไว้ข้างล่างของที่นั่ง ก่อนที่จะจัดวางด้วยเบาะนุ่มสบายแล้วก็หมอนอิงในการนั่งพักผ่อนพัก ก็เป็นไอเดียหนึ่งที่ช่วยเพิ่มประโยชน์ของเครื่องเรือนให้ใช้งานได้มากขึ้น พร้อมแปลงบ้านเกลื่อนกลาดให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และก็ประหยัดเงินในกระเป๋าได้อย่างไม่น่าเชื่อ

 

สนับสนุนโดย    คาสิโนดานัง

การสร้างบ้านปูนกับบ้านไม้ ต่างกันอย่างไร แบบไหนดีกว่ากัน

การสร้างบ้านปูนและบ้านไม้มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความต้องการ การใช้งาน และสภาพแวดล้อมที่บ้านตั้งอยู่ การเลือก  สุขภาพหู    ว่าจะสร้างบ้านแบบไหนดีกว่าจึงขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านี้เป็นหลัก

บ้านปูน:

  1. ความแข็งแรงและทนทาน   บ้านปูนมีความแข็งแรงและทนทานต่อสภาพอากาศและการใช้งานในระยะยาว เนื่องจากวัสดุอย่างปูนซีเมนต์และคอนกรีตมีความคงทนต่อความชื้น ลม ฝน และไฟ บ้านปูนจึงเหมาะกับพื้นที่ที่มีสภาพอากาศรุนแรง หรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้
  2. การบำรุงรักษา: บ้านปูนมีการบำรุงรักษาที่ค่อนข้างน้อย เนื่องจากไม่ต้องกังวลเรื่องปลวกหรือมอดที่ทำลายเนื้อไม้ นอกจากนี้ โครงสร้างของบ้านปูนยังคงทนต่อการแตกร้าวหรือการเสียหายที่เกิดจากการหดตัวหรือขยายตัวของวัสดุเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ
  3. ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย:  บ้านปูนมีผนังที่หนาและแน่น ทำให้สามารถกันเสียงจากภายนอกได้ดี รวมถึงเพิ่มความปลอดภัยจากการบุกรุกหรือโจรกรรม การเจาะหรือตัดผ่านผนังคอนกรีตทำได้ยาก ทำให้บ้านปูนมักถูกมองว่ามีความปลอดภัยสูงกว่า

ข้อเสีย:

บ้านปูนมีน้ำหนักมากและอาจต้องการฐานรากที่แข็งแรง ทำให้ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างสูงกว่า และหากมีปัญหาในเรื่องโครงสร้างหรือความเสียหาย การซ่อมแซมก็อาจจะทำได้ยากและใช้เวลานาน

บ้านไม้:

  1. ความงดงามและอบอุ่น:   บ้านไม้ให้ความรู้สึกที่อบอุ่นและใกล้ชิดกับธรรมชาติ ลักษณะและสีสันของไม้สามารถสร้างบรรยากาศที่สบายและผ่อนคลาย อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นในการออกแบบและตกแต่งภายในให้มีความสวยงามตามที่ต้องการ
  2. ความยืดหยุ่นในการก่อสร้าง: บ้านไม้สามารถก่อสร้างได้ง่ายและรวดเร็ว วัสดุไม้มีน้ำหนักเบา ทำให้ไม่ต้องการฐานรากที่แข็งแรงเหมือนบ้านปูน อีกทั้งการดัดแปลงหรือเพิ่มเติมส่วนต่าง ๆ ของบ้านก็สามารถทำได้สะดวกกว่า
  3. ความเป็นธรรมชาติ: บ้านไม้สามารถสร้างความรู้สึกกลมกลืนกับธรรมชาติ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมเป็นธรรมชาติ การเลือกไม้ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น ไม้ปลูกจากสวนป่า เป็นการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน

ข้อเสีย: บ้านไม้มีความเสี่ยงต่อการถูกปลวก มอด หรือแมลงทำลายเนื้อไม้ ทำให้ต้องการการบำรุงรักษาเป็นประจำ และในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง ไม้อาจเสื่อมสภาพได้เร็ว นอกจากนี้ บ้านไม้มีความทนทานน้อยกว่าบ้านปูนในกรณีที่เกิดภัยธรรมชาติ เช่น พายุหรือไฟไหม้

การเลือกว่าจะสร้างบ้านปูนหรือบ้านไม้ขึ้นอยู่กับความต้องการและเงื่อนไขของแต่ละคน หากต้องการบ้านที่ทนทานและมีความปลอดภัยสูง บ้านปูนอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่หากต้องการบ้านที่มีบรรยากาศอบอุ่นและใกล้ชิดกับธรรมชาติ บ้านไม้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

การพิจารณาข้อดีข้อเสียของทั้งสองแบบอย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการของคุณ

“ไม่แก่” แต่ช่องคลอดแห้ง ทำอย่างไรดี?

ช่องคลอดแห้ง กินอะไรดีช่วยเพิ่มนํ้าหล่อลื่นแบบธรรมชาติ

ช่องคลอดแห้งเป็นปัญหาสุขภาพที่สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกวัย ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้หญิงสูงอายุเท่านั้น สภาพนี้อาจทำให้รู้สึกไม่สบายในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ หรือในบางครั้งอาจทำให้เกิดอาการคันและระคายเคืองในบริเวณช่องคลอดได้

การที่ช่องคลอดแห้งอาจเกิดจากหลายสาเหตุและสามารถแก้ไขได้ด้วยหลายวิธี  ปัญหาการได้ยิน    ตามความเหมาะสม

 

สาเหตุของช่องคลอดแห้ง

  1. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน: แม้ว่าผู้หญิงจะไม่อยู่ในวัยหมดประจำเดือน แต่ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลงเนื่องจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ภาวะเครียด การใช้ยาคุมกำเนิด หรือการให้นมบุตร ก็สามารถทำให้ช่องคลอดแห้งได้
  2. การใช้ผลิตภัณฑ์บางชนิด: การใช้สบู่ที่มีความรุนแรง น้ำหอม หรือผลิตภัณฑ์ล้างจุดซ่อนเร้นที่มีส่วนประกอบที่ทำให้ระคายเคือง สามารถทำให้ช่องคลอดสูญเสียความชุ่มชื้นตามธรรมชาติได้
  3. การใช้ยาบางประเภท: ยาแก้แพ้และยาแก้คัดจมูกสามารถทำให้เยื่อเมือกในช่องคลอดแห้งได้ เช่นเดียวกับยาบางประเภทที่ใช้รักษาภาวะซึมเศร้าและยาคุมกำเนิด
  4. ความเครียดและการนอนหลับไม่เพียงพอ: ความเครียดและการขาดการพักผ่อนที่เพียงพออาจส่งผลกระทบต่อระบบฮอร์โมนของร่างกาย ทำให้เกิดช่องคลอดแห้งได้

 

วิธีแก้ไขช่องคลอดแห้ง

  1. การใช้สารหล่อลื่นและมอยส์เจอไรเซอร์สำหรับช่องคลอด: การใช้สารหล่อลื่นในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์สามารถช่วยลดความรู้สึกไม่สบายได้ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์มอยส์เจอไรเซอร์สำหรับช่องคลอดที่สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวันเพื่อช่วยคงความชุ่มชื้น
  2. การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต: การลดความเครียด การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายสมดุล และช่วยป้องกันปัญหาช่องคลอดแห้ง
  3. การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์: การรับประทานอาหารที่มีสารอาหารที่ส่งเสริมการผลิตเอสโตรเจน เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเมล็ดแห้ง และเมล็ดพืช อาจช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายและลดปัญหาช่องคลอดแห้งได้
  4. การหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ระคายเคือง: หลีกเลี่ยงการใช้สบู่ที่มีความรุนแรง น้ำหอม หรือผลิตภัณฑ์ล้างจุดซ่อนเร้นที่มีส่วนประกอบที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH เหมาะสมและอ่อนโยนต่อผิว
  5. การปรึกษาแพทย์: หากช่องคลอดแห้งเป็นปัญหาที่รบกวนชีวิตประจำวัน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและการรักษาที่เหมาะสม แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ฮอร์โมนทดแทนหรือผลิตภัณฑ์เฉพาะที่สำหรับรักษาภาวะนี้

 

แม้ว่าช่องคลอดแห้งอาจเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทุกวัย แต่ก็สามารถจัดการได้ด้วยวิธีที่เหมาะสม การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมสามารถช่วยลดอาการและเพิ่มคุณภาพชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม หากมีอาการรุนแรงหรือไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม

โรคซีสต์ในรังไข่ โรคนี้ร้ายแรงหรือไม่ เป็นแล้ว ต้องรักษาอย่างไร

โรคซีสต์ในรังไข่ (Ovarian Cysts) เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อมีถุงน้ำหรือเนื้องอกที่ไม่เป็นมะเร็งเจริญเติบโตในรังไข่ ซีสต์ในรังไข่เป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในผู้หญิงทุกช่วงอายุ โดยเฉพาะในวัยเจริญพันธุ์ ซีสต์ส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตรายและสามารถหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา แต่ในบางกรณี ซีสต์อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพที่รุนแรงได้

  1. ประเภทของซีสต์ในรังไข่

ซีสต์ในรังไข่แบ่งออกเป็นหลายประเภท แต่ประเภทที่พบได้บ่อยที่สุด ได้แก่:

– ฟอลลิคูลาร์ ซีสต์ เกิดจากการที่ไข่ไม่สามารถหลุดออกจากฟอลลิคูลาร์ในระหว่างการตกไข่ ส่งผลให้เกิดการสะสมของของเหลวและเกิดซีสต์ ฟอลลิคูลาร์ซีสต์มักหายไปเองภายในไม่กี่สัปดาห์โดยไม่ต้องรักษา

– คอร์ปัสลูเทียม ซีสต์ เกิดขึ้นหลังจากการตกไข่ เมื่อไข่หลุดออกมา ฟอลลิคูลาร์ที่เหลือจะกลายเป็นคอร์ปัสลูเทียม หากเกิดการสะสมของเลือดหรือของเหลวในคอร์ปัสลูเทียม จะทำให้เกิดซีสต์ประเภทนี้

  1. อาการของซีสต์ในรังไข่

ซีสต์ในรังไข่ส่วนใหญ่ไม่ทำให้เกิดอาการและมักจะถูกพบโดยบังเอิญระหว่างการตรวจร่างกายประจำปีหรือการตรวจอัลตราซาวนด์ อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี ซีสต์อาจทำให้เกิดอาการดังนี้:

– ปวดท้องน้อยหรือปวดประจำเดือนอย่างรุนแรง

– ปวดท้องข้างเดียว

– ประจำเดือนมาไม่ปกติ เช่น มาเป็นก้อน มาเยอะกว่าปกติ หรือมาน้อยมาก

– รู้สึกท้องอืดหรือบวม

– ปัสสาวะบ่อยหรือมีอาการปัสสาวะติดขัด

 

  1. ภาวะแทรกซ้อน

ซีสต์ในรังไข่บางประเภทอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น:

– การแตกของซีสต์: หากซีสต์แตก อาจทำให้เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง และมีเลือดออกภายในช่องท้อง ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาทันที

– การบิดตัวของรังไข่ เมื่อซีสต์มีขนาดใหญ่ อาจทำให้รังไข่บิดตัว ซึ่งทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปยังรังไข่ได้ และอาจนำไปสู่การสูญเสียรังไข่หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

– เนื้องอกที่เป็นมะเร็ง:แม้ว่าซีสต์ส่วนใหญ่จะไม่ใช่มะเร็ง แต่บางครั้งซีสต์อาจมีโอกาสกลายเป็นมะเร็ง โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยทองหรือผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งรังไข่

  1. การรักษาซีสต์ในรังไข่

การรักษาซีสต์ในรังไข่ขึ้นอยู่กับประเภท ขนาด และอาการของซีสต์ รวมถึงอายุและสุขภาพทั่วไปของผู้ป่วย โดยทั่วไปมีแนวทางการรักษาดังนี้:

– การเฝ้าระวัง: ในกรณีที่ซีสต์ไม่มีอาการหรือมีขนาดเล็ก แพทย์อาจแนะนำให้เฝ้าระวังและทำการตรวจอัลตราซาวนด์เพื่อติดตามขนาดของซีสต์ในระยะเวลาที่กำหนด

– การใช้ยาฮอร์โมน: สำหรับซีสต์ที่เกิดจากฮอร์โมน แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาคุมกำเนิดเพื่อควบคุมรอบเดือนและป้องกันการเกิดซีสต์ใหม่

– การผ่าตัด: ในกรณีที่ซีสต์มีขนาดใหญ่ มีอาการเจ็บปวด หรือสงสัยว่าเป็นมะเร็ง แพทย์อาจแนะนำให้ผ่าตัดเอาซีสต์ออก ซึ่งวิธีการผ่าตัดสามารถเป็นการผ่าตัดผ่านกล้องหรือการผ่าตัดแบบเปิด ขึ้นอยู่กับลักษณะของซีสต์

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย     เครื่องช่วยฟังโรงพยาบาลรัฐ

ปัญหากวนประสาทจะหมดไป เทคนิคดูแลบ้าน

ปัญหากวนประสาทจะหมดไป เทคนิคดูแลบ้าน บ้านแสนรักของพวกเราเมื่ออาศัยมานาน บางทีอาจมิได้มีภาวะสวยสดงดงาม

ดังวันแรกๆเป็นปกติที่จะเก่าเสื่อมโทรมลงไปตามระยะเวลา อีกทั้งตึกข้างนอกรวมทั้งข้างใน บางโอกาสดูไปก็สร้างความรำคาญรำคาญให้ชราเองและก็สมาชิกข้างในครอบครัว บางโอกาสประตูบางทีอาจแผดเสียงดัง พื้นมีรอยขูดขีดหรือบวม รวมถึงฝาผนังหลุดล่อน เทคนิคต่อแต่นี้ไปจะเชิญทุกคนมาปรับปรุงทุกจุดในบ้าน

เพื่อบ้านกลับมาน่าอยู่ แล้วก็ตอบปัญหาการใช้แรงงานก้าวหน้าอีกรอบ จะมีแนวทางแก้ไขอย่างไรบ้างนั้น ตามพวกเราไปดูเลย

ไม้ปูพื้น เมื่อพื้นปาร์เก้เริ่มล่อน เพราะบ้านแก่นับเป็นเวลาหลายปี มูลเหตุอาจเป็นเพราะความชุ่มชื้นทำให้กาวเล็กน้อยหลุดล่อน กระบวนการปรับปรุงก็คือลอกกาวที่เสื่อมออก แล้วจึงทากาวใหม่ แม้กระนั้นแม้พื้นปาร์เก้หมองสีถลอกปอกเปิก ไม่เรียบเนียนอย่างเดิม ถ้าหากเป็นแบบนั้นพวกเราควรจะฉาบเงาใหม่เพื่อพื้นปาร์เก้กลับมางามอย่างเดิม

ดูแลรอบสระว่ายน้ำ ระเบียงไม้รอบสระว่ายน้ำจำต้องสัมผัสน้ำจากสระตลอดระยะเวลา บางคราวลื่นจนถึงเกินความจำเป็น เกิดอันตรายต่อตัวเองรวมทั้งคนที่อยู่รอบข้าง ด้วยเหตุดังกล่าวมาจัดการกับปัญหาที่พวกเราไม่สมควรละเลยนี้กัน ปัจจัยที่ทำให้ระเบียงลื่นนั้น

อาจเกิดขึ้นจากการเลือกอุปกรณ์ปูพื้นไม่เหมาะสม หรือพื้นระเบียงปูชิดกันเหลือเกิน ถ้าเกิดไม่ต้องการที่จะอยากรื้อถอนพื้นแล้วปูใหม่ เสนอแนะใช้ยาใช้ภายนอกแก่นไม้จำพวกผสมสารกันลื่นก็สามารถช่วยได้ด้วยเหมือนกัน

ดูแลพรม เมื่อพรมใช้งานมานาน อาจมีปัญหาเข้ามากวนโอ๊ยพวกเรา ไม่ว่าจะเรื่องของฝุ่นผง คราบเปื้อน เชื้อโรคหมักหมม ด้วยเหตุนี้พวกเราควรจะดูแลความสะอาดอยู่เป็นประจำ แม้กระนั้นหากว่าพรมชำรุดทรุดโทรมล่ะ อาทิเช่น เป็นต้นว่า พรมมีคราบไหม้เป็นรู การปรับแก้

โดยออมงบประมาณที่สุดไม่ต้องซื้อพรมใหม่ก็คือ ให้เบา ๆ เกลี่ยเศษพรมจากส่วนอื่น แล้วติดกาวปิดทับ ช่วยทำให้พรมใช้งานได้ต่ออีกระยะหนึ่ง

จบปัญหาเรื่องขนสัตว์ คนไหนกันเป็นข้าทาสแมว หรือเลี้ยงเจ้าตูบ น่าจะหนีไม่พ้นเรื่องขนสัตว์ตก ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องเรือนอย่างโซฟาเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นยังตามมาติดเต็มเสื้อผ้า

แนวทางกล้วยๆที่ช่วยปรับแต่งก็คือ ใช้ลูกกลิ้งชำระล้างเป็นแนวทางที่สะดวกที่สุด หรือคนไหนยังมิได้ซื้อ จะใช้ไอเท็มกล้วยๆอย่างฟองน้ำที่มีอยู่แล้วทุกบ้านตอบแทนไปก่อนได้ เป็นนำฟองน้ำไปชุบน้ำแล้วบิดออกให้หมาด แล้วนำไปขัดถูตามเครื่องเรือน หรือมุมต่างๆช่วยทำให้กวาดทำความสะอาดได้อย่างง่ายดายขึ้น

 

สนับสนุนโดย    คาสิโนเวียดนาม

ภาวะความเครียด  Micro Stress 

    สำหรับในบทความนี้เราจะมาพูดถึงภาวะความเครียดที่คนไทยนั้นกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ซึ่งหลายคนนั้นอาจจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองนั้นมีสภาวะความเครียดอยู่ตลอดเวลา 

อย่างไรก็ตามความเครียดนั้นมันสามารถสะสมได้ซึ่งความเครียดนั้นมีทั้งปัญหาขนาดใหญ่และปัญหาขนาดเล็กและถ้าหากเรามีความเครียดเล็กๆน้อยๆสะสมกันเรื่อยๆก็จะทำให้เราเกิดภาวะที่มีความเครียดอยู่ตลอดเวลาได้ซึ่งอาจจะทำให้เราไม่รู้ตัวรวมถึงบางครั้งเราอาจจะไม่ใส่ใจเกี่ยวกับปัญหาความเครียดที่เกิดขึ้นเล็กน้อย

แต่ถ้าหากเรายังปล่อยให้มันสะสมไปเรื่อยๆนานๆความเครียดเหล่านี้จะไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไปแต่มันจะสามารถรวมตัวกันกลายเป็นปัญหาที่รุนแรงและทำให้เรามีปัญหาด้านสุขภาพจิตและสุขภาพกายได้เช่นเดียวกัน

      สำหรับสภาวะความเครียดที่เกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัวนี้เรียกว่าเป็นภาวะ  Micro Stress  ซึ่งปัจจุบันนี้คนไทยส่วนมากมักตกอยู่ในภาวะ Micro Stress 

โดยที่ตนเองไม่รู้ตัว  เนื่องจากความเครียดในภาวะแบบนี้นั้นเป็นความเครียดที่แทรกซึมอยู่ระหว่างที่เรากำลังใช้ชีวิตจึงมีความชัดเจนน้อยกว่าหรือเป็นเพียงความรู้สึกที่เกิดขึ้นช่วงขณะเมื่อไม่ได้ส่งผลกระทบมากมายกับชีวิตคนส่วนใหญ่จึงปล่อยผ่านไปความเครียดเล็กน้อยที่เราต้องเจอกันอยู่ทุกวัน  

เช่นรถติดไปทำงานสาย   ความไม่สะดวกสบายในที่ทำงาน   ปัญหาเจ้านายลูกน้อง   เพื่อนร่วมงานที่ไม่น่ารักความเครียดจากปัญหาด้านการเงินและความสำคัญที่ไม่สู้ดีสิ่งเหล่านี้ล้วนสร้างความเครียดที่เลี่ยงไม่ได้แม้ดูไม่มีความหมายสำคัญแต่หากต้องพบเจอทุกวันกลายเป็นความเครียดสะสมส่งผลเสียต่อสุขภาพที่งานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าความเครียดระดับMicro Stress สามารถส่งผลเสียต่อความเป็นอยู่ของเรารวมถึงความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวลเพิ่มขึ้นเมื่อสะสมยังก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพร่างกายในระยะยาว

 

เช่นความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจสัญญาณบอกว่ากำลังมีภาวะไมโครสคือการที่รู้สึกว่ากำลังมีความเครียดอยู่เสมอ

แต่ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไรการรับมือและไม่ปฏิบัติตามนั้นเลยกับความเครียดเล็กน้อยในแต่ละวันช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้วิธีจัดการกับความเครียดเช่นมันปกติออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อรักษาสมดุลของฮอร์โมนที่ส่งผลด้านอารมณ์จัดระเบียบและระดับความสำคัญของงานมีเวลาพักสมองด้วยการทำกิจกรรมที่ชื่นชอบระหว่างวันเช่นอ่านหนังสือจดน้ำต้นไม้ฟังเพลงและเดินเล่น เป็นต้น

   อย่างไรก็ตามถ้าหากใครยังไม่รู้ตัวว่าตนเองนั้นอยู่ในภาวะ Micro Stress  หรือไม่เราสามารถสังเกตได้จากการที่จะมีปฏิกิริยาเกิดขึ้นจากร่างกายของเราเช่นเราอาจจะกำมือโดยที่เราไม่รู้ตัวหรือกัดฟันโดยที่เราไม่รู้ตัวซึ่งภาวะเหล่านี้เกิดจากความเครียดสะสม 

ถ้าหากเรามีอาการแบบดังกล่าวนั้นก็แสดงได้ว่าเรากำลังอยู่ในภาวะความเครียดสะสมทีละน้อยซึ่งเราควรที่จะรีบกำจัดความเครียดต่างๆเหล่านั้นไปเพื่อสุขภาพร่างกายที่ดีของเรานั่นเอง 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    hoiana casino